จากกรณีเมื่อวันที่ 5 เดือนพฤศจิกายนก่อนหน้านี้ ตำรวจ สน.ทองหล่อ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) นำกำลังเข้าพิจารณาสถานบริการชื่อ The Lobby X Chuweed ภายในโรงแรม Davis Hotel Corner Wing บนถนนหนทางสุขุมวิท บริเวณคลองเตย หลังนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล มาแจ้งเหตุกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ว่า ชูวิทย์ สถานบริการดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เปิดให้บริการเกินในช่วงเวลาที่ข้อบังคับระบุ และก็มีกลุ่มวัยรุ่นสุมหัวเสพสิ่งเสพติด
อ่านข่าว สันธนะ ประจันหน้า ชูวิทย์ ย้ำไม่ได้ดิสเครดิต หลังพฐ.ตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติ
โดย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ในฐานะเจ้าของโรงแรม นำเจ้าหน้าที่พิจารณา พร้อมกล่าวมาว่า สิ่งที่นายสันธนะ ใส่ร้ายนั้นก็นับได้ว่าเป็นคุณประโยชน์ เพื่อตำรวจได้มาพิสูจน์ โดยผับที่นี้ หลักๆลูกชายตนเปิดไว้สำหรับการจัดงานสังสรรค์ ปาร์ตี้วันเกิด งานสังสรรค์รุ่นต่างๆซึ่งนายสันธนะเอง จะมาขอจัดแถลงข่าวที่นี่ก็ได้ ส่วนในกรณีที่นายสันธนะ กล่าวถึงว่าสายลับที่ตัวเองส่งเข้ามาร่วมงานได้เสียเงิน 400 บาท และก็ได้รับสายรัดข้อมือมานั้นก็คือเรื่องธรรดาของผู้ที่มาร่วมงาน ยืนยันว่าไม่มีการจำหน่ายสิ่งเสพติดและก็ของผิดกฎหมายเหมือนผับจิ้นหลิงของชาวจีนแน่ๆ
นายชูวิทย์ แจกแจงอีกว่า โรงแรมที่นี้มีใบอนุญาตถูกต้อง มีล็อบบี้เปิดให้เช่าเฉพาะวันศุกร์และก็เสาร์ รับจัดงานงานวันเกิด งานกินเลี้ยงทั่วไป รวมทั้งบาร์ที่นี้ไม่เคยถูกตำรวจมาตรวจค้นสิ่งเสพติดแม้แต่ครั้งเดียว ตนเลิกทำธุรกิจสีเทาทั้งหมด แล้วยกโรงแรมนี้ให้ลูกบริหาร ซึ่งโรงแรมนี้เป็นสถานที่เปิด มีอีกทั้งค๊อฟฟี่ช็อปและก็ล็อบบี้ใกล้กัน คนเข้าออกตลอด ถ้าเกิดมีความผิดจริงให้ลงทัณฑ์ตนได้ ไม่ขอแก้ตัว หลักฐานของนายสันธนะที่ว่า มีชายหญิงไปเข้าสุขาหลายๆคนก็คือเรื่องธรรดา ถ้าเกิดห้องเพศหญิงเต็ม ก็ไปเข้าห้องเพศชายถือเป็นเรื่องธรรมดาด้วยเหตุว่ามีสุขาเพียงแค่ 3 ห้อง
โดยประเด็นนี้เกิดขึ้นเพียงแค่ 2-3 วันหลังตนจัดหนักเรื่องผับชาวจีน ทุกคนคงมีวิจารณญาณ ตำรวจก็มีหลักฐานการจับกุมและก็ยึดทรัพย์สิน ยืนยันว่าประเด็นนี้มีผู้บากบั่นจะมีสะสางกับตัวเอง แม้กระนั้นตนไม่รับสะสาง ด้วยเหตุว่าก็เคยพบสถานะการณ์แบบนี้ จึงเป็นหน้าที่ของ ผู้บังคับบัญชาตำรวจและก็ รอง ผู้บังคับบัญชาตำรวจตนไม่โกรธนายสันธนะ แม้แต่น้อย
ถัดมา นายสันธนะ เดินทางมาที่โรงแรม โดยนายชูวิทย์ ออกมาไหว้ทักให้การต้อนรับ พร้อมเปิดเผยว่า
ดังที่สายลับตนได้เข้ามาในงาน พบว่ามีฝูงชนเข้าไปใช้สุขาชายและก็หญิงพร้อมเพียงกันนับสิบคน ซึ่งเป็นเหล่าลูกท่านหลานเธอ มีการ์ดมารอปกป้องนับสิบ เมื่อคืนนี้วานตนก็มาที่นี่ คนของตนก็เข้ามา ยืนยันไม่ได้รับจ้างมาจากใคร ซึ่งตำรวจเปิดเผยว่าพิจารณาไม่พบสิ่งผิดปกติ แม้กระนั้นตนมั่นใจว่ายังคงควรจะมีสารเสพติดหลงเหลืออยู่ ย้ำว่าไม่ได้มาดิสเครดิต และไม่ได้โกรธอะไรกับนายชูวิทย์ ยังคงเชื่อถือเป็นพี่ที่สนิทกัน และก็ประเด็นนี้ไม่ได้เกี่ยวกับผับจิ้นหลิง ถ้าเกิดถามว่าเป็นการเอาคืนนายชูวิทย์ ก็จะเรียกคุยเป็นการส่วนตัว
ทั้งนี้ ในระหว่างที่มีการพูดคุยกันระหว่าง นายสันธนะ และก็นายชูวิทย์ ได้มีการเปิดคลิปที่เจ้าตัวกล่าวว่ามีการเสพสิ่งเสพติด โดย2คลิปแรกเป็นคลิปบรรยากาศปาตี้ที่บริเวณลอบบี้ของโรงแรม ส่วนคลิปสุดท้าย เป็นคลิปภายในสุขาชาย ซึงมีด้วยกันทั้งหมด 3 ห้อง ซึ่งห้องข้างในสุดมีเพศชายและก็เพศหญิง เดินออกมาจากสุขาห้องเดียวกัน ส่วนสุขาห้องที่ 2 พบมีผู้ชายเดินออกมา พร้อมหญิงสาวอีก3คน โดยหญิงคนแรกที่เดินออกมามีการขยี้จมูกจริงดังที่นายสันธนะอ้างถึง แม้กระนั้นก็ไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่ามีการเสพสิ่งเสพติดอยู่ภายในห้องน้ำห้องดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
ปัจจุบัน นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส ได้เปิดเผยผ่านทางเฟซบุ๊ก ภายหลังที่นายชูวิทย์ ประกาศแจกรางวัล 1 แสนบาท สำหรับคนมีหลักฐานว่านายสันธนะทำความผิดกฎหมาย โดยโพสต์กล่าวว่า “มีสามคลิปเต็มๆ ครับ กล่าวอ้างเยอะแยะไปหมด รอคดีผมถึงที่สุดจะส่งให้นะครับ สามคลิปขอจิ้มจุ่มสุทธิพรมื้อเดียวครับ ตอนจบมีจังหวะซิทคอมด้วย แหงนหน้ามามองกล้องแล้วร้อง อุ้ย!! มีกล้อง”