Friday, 24 March 2023

อินโดผ่านกฎหมาย ห้ามมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส

รัฐสภาอินโดนีเซียอนุมัติกฎหมายอาญาฉบับใหม่ที่กำหนดให้การร่วมเพศนอกสมรสมีโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวที่เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่าเป็นกฎหมายที่ริดรอนสิทธิของประชาชน อินโดห้ามมีเซ็กส์ก่อนแต่ง

กฎหมายดังที่กล่าวผ่านมาแล้วจะบังคับใช้ทั้งยังกับชาวอินโดนีเซีย และ ชาวต่างชาติ รวมทั้งกฎหมายจริยธรรมอีกหลายฉบับที่จะทำให้คู่แต่งงานที่ยังไม่ได้สมรสที่อยู่ร่วมกัน และ ร่วมเพศกันนับว่าเป็นของผิดกฎหมายอีกด้วย

คู่ชีวิต หรือ บิดามารดาสามารถแจ้งเหตุในความผิดพลาดฐานร่วมเพศนอกสมรสได้ และ การทำในสิ่งที่ผิดสำหรับในการล่วงประเวณีดังที่กล่าวผ่านมาแล้วจะทำให้ผู้ทำอาจได้รับโทษจำคุก

กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า กฎหมายดังที่กล่าวผ่านมาแล้วส่งผลเสียต่อสิทธิสตรี กลุ่ม LGBT และ ชนกลุ่มน้อยในประเทศ ทำให้มีผู้คนกลุ่มเล็กๆออกมารวมตัวกันประท้วงหน้าอาคารรัฐสภาในกรุงจาการ์ตา

ประมวลกฎหมายใหม่ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วจะยังไม่มีผลบังคับใช้ไปจนกว่าในอีก 3 ปีด้านหน้า โดยกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่นี้ยังรวมทั้งกฎหมายที่ห้ามการดูถูกเหยียดหยามผู้นำ และ การพูดต้านอุดมการณ์ของรัฐ

นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน บอกว่า กฎหมายใหม่ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วยังมีการหยุดสิทธิสำหรับในการแสดงออกทางการเมือง และ จำกัดเสรีภาพทางศาสนา

ด้านสมาชิกรัฐสภาอินโดนีเซียบอกว่า พวกเขาได้เพิ่มการป้องกันอิสระในการพูดและการประท้วงที่เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์สาธารณะ

องค์กรฮิวแมนไรท์วอช กล่าวว่า บทบัญญัติของประมวลกฎหมายใหม่ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วของอินโดนีเซียนับว่าเป็นหายนะด้านสิทธิมนุษยชน และนับว่าเป็นความแพ้พ่ายครั้งใหญ่ของประเทศที่พยายามจะแสดงตัวว่าเป็นชาวมุสลิมสมัยใหม่ที่เป็นระบบประชาธิปไตย

อินโดนีเซีย

อินโดห้ามมีเซ็กส์ก่อนแต่ง ใครละเมิดต้องติดคุก

ผู้ที่ฝืนกฎหมายใหม่นี้แบ่งเป็นผู้ที่มี ความข้องเกี่ยวทางเพศก่อนสมรส ต้อง โดนจับจับ และ รับโทษจำคุกซึ่งมีระบุสูงสุดคือ 1 ปี สำหรับคู่แต่งงานที่ดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันโดยไม่ได้เข้าพิธีสมรส หรือ มีสถานะเป็น คู่รักตามกฎหมาย ต้องได้รับโทษจำคุกเช่นกัน แม้กระนั้นมีกำหนดโทษสูงสุดอยู่ที่ 6 เดือน

ตามกฎข้อบังคับของ กฎหมายใหม่ บิดามารดา หรือ ผู้ดูแลของคนไม่มีคนรักที่ร่วมเพศกับบุคคลอื่น ต้องแจ้งเหตุต่อผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ถึงความประพฤติปฏิบัติของลูกของตน แม้กระนั้นในกรณีของบุคคลที่สมรสแล้ว เกิดเป็นชู้ หรือ นอกใจ ผู้ที่จะร้องเรียนได้คือคู่รักเท่านั้น

ตามรายงานข่าว ได้มีความพากเพียรที่จะผ่านร่างกฎหมายนี้มาเป็นเวลายาวนานกว่าทศวรรษแล้ว แต่เดิมคาดว่า ร่างแรกของกฎหมายดังที่กล่าวผ่านมาแล้วจะผ่านความเห็นชอบรัฐสภาในปี 2562 แม้กระนั้นก็เจอกระแสต่อต้านจากประชาชนจำนวนมากในหลายเมืองใหญ่เสียก่อน

เนื้อหาของการปรับแก้กฎหมาย

เรื่องการปรับแต่งประมวลกฎหมายอาญาดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว ที่เป็นข้อโต้เถียงร้อนแรง คือ การกำหนดให้การร่วมเพศก่อนแต่งงาน และ การร่วมเพศนอกสมรส รวมทั้งการอาศัยอยู่ร่วมกันของคู่แต่งงานที่ยังไม่แต่งงาน จัดว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมายอาญา

ประมวลกฎหมายใหม่ยังมีผลบังคับใช้กับชาวต่างชาติที่พำนักพักพิงอยู่ในอินโดนีเซีย รวมทั้งนักเดินทางด้วย

นอกเหนือจากนั้น มาตราที่ถูกปรับแก้ ยังรวมทั้ง การออกกฎหมายห้ามการเปลี่ยนศาสนา และ ข้อบัญญัติโทษกรณีการพูดดูถูกเหยียดหยามผู้นำ หรือ แสดงความเห็นที่ขัดกับอุดมคติของประเทศชาติ

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการเพิ่มข้อบัญญัติโทษ กรณีดูถูกเหยียดหยามศาสนา เป็นอันตรายจำคุก 5 ปีอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงกฎหมายและสิทธิมนุษยชน ชี้ว่า การปรับปรุงกฎหมายครั้งนี้ จะช่วยคุ้มครองสถาบันครอบครัว และ ความศักดิ์สิทธิ์ของการแต่งงาน

ไม่เพียงเท่านั้น ตัวบทกฎหมายจะส่งผลก็ต่อเมื่อ คู่ชีวิต บิดามารดา หรือ ลูกๆเป็นผู้แจ้งเหตุถึงการกระทำผิด ทั้งยัง ร่วมเพศก่อนแต่งงาน และ นอกสมรส

ประท้วงกฏหมาย

ห้ามมีเซ็กซ์นอกสมรส-อยู่ก่อนแต่ง นักท่องเที่ยวก็โดน

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย กล่าวว่า รัฐสภาของประเทศ อินโดนีเซีย เห็นดีเห็นชอบกฎหมายอาชญากรรมใหม่ในวันอังคารที่ 6 เดือนธันวาคม 2565 ห้ามมีใครก็ช่างร่วมเพศนอกการแต่งงาน มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 1 ปี ท่ามกลางความรู้สึกไม่สบายใจว่า กฎหมายนี้จะทำให้นักเดินทางกลัวจนไม่กล้าเดินทางมา และ อาจทำให้เกิดโทษ และ ส่งผลเสียรวมทั้งไม่ดีต่อการลงทุน

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา อินโดนีเซียมีกฎหมายห้ามร่วมเพศกับผู้ที่ไม่ใช่คู่รักของตนอยู่แล้ว แม้กระนั้นไม่เคยห้ามการร่วมเพศระหว่างคนที่ยังไม่สมรส โดยกฎหมายใหม่จะส่งผลต่อทั้งยังชาวอินโดนีเซีย, ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ หรือ เดินทางเข้ามาในอินโดนีเซีย และ ยังห้ามการอยู่ก่อนสมรสระหว่างคู่แต่งงานด้วยถ้าฝ่าฝืนต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน แม้กระนั้นกฎหมายฉบับนี้จะยังไม่มีผลตรงเวลา 3 ปี เพื่อร่างแนวทางการบังคับใช้กฎ

อย่างไรก็แล้วแต่ กฎหมายดังที่กล่าวผ่านมาแล้วพบเจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายว่า ไม่เป็นผลดีต่อประเทศ เป็นต้นว่านายเมาลานา ยูสราน รองประธานคณะกรรมการอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับด้านการท่องเที่ยวที่อินโดนีเซีย บอกว่า กฎหมายใหม่นี้เป็นการถ่วงความเจริญอย่างสิ้นเชิง ตอนที่เศรษฐกิจ และ การท่องเที่ยวกำลังเริ่มฝื้นตัวกลับมาจากการระบาดของโควิด-19

“เราเสียใจอย่างยิ่งที่รัฐบาลปิดตาตัวเอง เราแสดงความกังวลต่อกระทรวงการท่องเที่ยวถึงความอันตรายของกฎหมายนี้ไปแล้ว” นายยูสรานกล่าว

โดยสมาคมการท่องเที่ยวเกาะบาหลีเคยคาดการณ์ไว้ว่า นักท่องเที่ยวจะกลับมาอยู่ระดับก่อนโควิดระบาดที่ 6 ล้านคนภายในปี 2568 ก่อนหน้านี้อินโดนีเซียยังพยายามดึงดูดกลุ่มคนที่ทำงานผ่านทางออนไลน์ หรือ  digital nomad ให้มาเที่ยวในประเทศดด้วยการผ่านคลายกฎวีซ่าด้วย

ด้านนายอัลเบิร์ต แอรีส โฆษกกระทรวงยุติธรรมอินโดนีเซีย กล่าวว่า การบังคับใช้กฎหมายใหม่จะถูกจำกัดโดยผู้ที่สามารถแจ้งความได้ เช่น พ่อแม่, คู่สมรส หรือ ลูกของผู้ต้องสงสัยกระทำผิด

“จุดประสงค์ของกฎหมายนี้คือการปกป้องสถาบันการแต่งงาน และ ค่านิยมของอินโดนีเซีย ในเดียวกันก็ปกป้องความเป็นส่วนตัวของชุมชน และ ปฏิเสธสิทธิ์ของสังคม หรือ บุคคลที่ 3 ไม่ให้แจ้งความเรื่องนี้ หรือ  ‘ทำตัวเป็นผู้พิพากษา’ โดยอ้างศีลธรรม” นายแอรีสกล่าว